Google Business Profile คืออะไร การสมัคร ใช้งานและปรับแต่ง

แชร์บทความนี้!

ทำความรู้จักกับ Google Business Profile ตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งาน Google Search และ Google Maps ในระดับท้องถิ่น (Local) ที่ทำการค้นหาสินค้าและบริการอันเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ให้กลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ง่ายขึ้นและสามารถเข้าถึงหน้าร้านของคุณได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา


Google Business Profile คือ ?

Google Business Profile คือ โปรไฟล์สำหรับร้านและธุรกิจ ที่จะแสดงผลบนหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google Search และ Google Maps เพื่อแสดงตำแหน่งหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง สำหรับให้บริการของร้านและธุรกิจน้อยใหญ่ ในบริเวณที่คุณค้นหา สินค้า ร้านค้า หรือบริการต่าง ๆ

NOTE: ตัวย่อที่ใช้เรียกในวงการ SEO คือ GMB

spa-at-rangsit

spa-location-rangsit


ธุรกิจที่ควรมี Google Business Profile

คำตอบคือ ! ทุกธุรกิจ ที่มีหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง ให้คนสามารถเข้ามา ซื้อสินค้า ใช้บริการ หรือติดต่อบริการ และธุรกิจที่ต้องการ เพิ่มร้านใน Google Map รวมถึงคนที่ทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน คนที่ทำงานฟรีแลนซ์ ที่อยากโฟกัสการให้บริการในระแวกที่พักของตน สามารถใช้ที่อยู่บ้านหรือที่พักสมัครใช้งานได้เช่นกัน


ทำไมถึงต้องมี Google Business Profile

กูเกิล มาย บิซซิเนส

– ช่วยสร้างความดูเป็นมืออาชีพให้กับร้านหรือธุรกิจของคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต

– ช่วยสร้างความชื่อมั่นให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ( Google Business Profile มีส่วนที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเขียนรีวิวและให้คะแนนร้านค้าหรือธุรกิจได้อีกด้วย มีตั้งแต่ 1-5 ดาว ยิ่งรีวิวดี คะแนนดี ก็จะเป็นผลดีต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้าคนอื่น ๆ ในอนาคต)

– ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นพบหน้าร้านหรือธุรกิจของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ในระดับท้องถิ่น

– เพิ่มโอกาสในการขายหรือให้บริการลูกค้าในพื้นที่บริการ ได้อย่างยอดเยี่ยม

– เก็บข้อมูลสถิติ พฤติกรรมของผู้ใช้งาน นำมาปรับใช้ เพื่อให้ร้านหรือบริษัทของคุณสามารถดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โปรไฟล์ Google Business Profile ยังมีความสำคัญอย่างมาก ในการ ช่วยอ้างอิงข้อมูลที่ถูกต้องของตำแหน่งที่ตั้งร้านหรือธุรกิจ (Business Address) แสดงให้เห็นว่าร้านหรือบริษัทของคุณมีอยู่จริง

เมื่อคุณต้องทำ เอสอีโอ ในระดับท้องถิ่น (Local SEO) ข้อมูลที่ตั้งเหล่านี้จะไปเชื่อมโยงกับการปรับแต่งเอสอีโอบนเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงการทำโปรไฟล์บนเว็บไดเรกทอรีสำหรับธุรกิจ อีกด้วย

Google Business Profile ค่าใช้จ่าย

ในตอนนี้ กูเกิล มาย บิซซิเนส ถูกเปิดให้ ใช้งานได้ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการสมัคร หรือระหว่างการใช้งาน


google-my-business-logo

วิธีสมัคร Google Business Profile

การสมัครใช้งาน Google Business Profile และปรับแต่งโปรไฟล์เบื้องต้น (Desktop Version)

1. เข้าไปที่ กูเกิล มาย บิซซิเนส ประเทศไทย

2. ลงชื่อเข้าใช้ (Login) ด้วยบัญชีกูเกิลของคุณ (Gmail) หากยังไม่มีก็ให้สมัครก่อนครับ

Google My Business Thailand

 

3. กรอกชื่อร้านหรือบริษัทของคุณ จากนั้น>> กด “ถัดไป”

google-business-register-step-2

4. กรอกข้อมูลที่อยู่ของหน้าร้านหรือที่อยู่บริษัทของคุณ ให้ถูกต้องครบถ้วน

– ช่องที่อยู่: เลขที่, หมู่ (ถ้ามี), ถนน

– ตำบล/แขวง

– อำเภอ/เขต

– จังหวัด

– รหัสไปรษณีย์

google-business-register-step-3

* หากธุรกิจของคุณให้บริการแบบไปถึงที่ เช่น ช่างซ่อมแอร์ ช่างประปา บริการส่งของ ต่าง ๆ

ให้ทำการติ๊กที่ช่อง “ฉันจัดส่งสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า” ด้วยนะครับ สามารถกด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ถ้าใครไม่ได้ให้บริการประเภทนี้ >> กด “ถัดไป” (ไปขั้นตอนที่ 5 ได้เลยครับ)

google-business-register-step-3.1

ส่วนคนที่ติ๊ก “ฉันจัดส่งสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า” จะมีช่อง “ซ่อนที่อยู่ของฉัน (ที่อยู่นี้ไม่ใช่หน้าร้าน)” เพิ่มขึ้นมา อันนี้ปล่อยไว้ครับไม่ต้องติ๊ก จากนั้น >> กด “ถัดไป”

5. การปักหมุดตำแหน่งที่อยู่

    5.1 ในกรณี Google Maps หาตำแหน่งตามที่อยู่ไม่เจอ (ถ้าเจอข้ามไปข้อ 6 ได้เลย) ตอนสมัครหากใครอยู่ที่ตำแหน่งหน้าร้านหรือตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทจริง สามารถกดที่เครื่องหมาย ค้นหาตำแหน่งจาก GPS (รูปเป้า) แล้วกด Allow Location Access ได้เลยครับ ระบบจะหาตำแหน่งตาม GPS ของเรา ที่สามารถปักหมุดได้อย่างเหมาะสมให้เอง (ถ้าหมุดไม่ค่อยตรงก็ขยับเอาเองได้ครับ) ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจริงขณะสมัครคงต้องนั่งหาบนแผนที่เองครับ จากนั้น >> กด “ถัดไป”

google-business-find-location

     5.2 ในกรณีหาเจอ แต่มีชื่อร้านหรือบริษัท อื่น ๆ โผล่มา ให้เลือก “ไม่มีเลย” จากนั้น >> กด “ถัดไป”

google-choose-business

6. เลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุด จากนั้น >> กด “ถัดไป”

google-business-choost-category

7. กรอกข้อมูลติดต่อสำหรับลูกค้า

– กรอกเบอร์โทรติดต่อที่ใช้งานได้จริง: เบอร์ร้าน เบอร์ออฟฟิศ หรือเบอร์มือถือ ก็ได้

– URL เว็บไซต์ร้านหรือบริษัทของคุณ หากไม่มีเว็บไซต์ให้ติ๊ก “ฉันไม่อยากมีเว็บไซต์” หรือถ้าอยากจะสร้างแบบง่าย ๆ ติ๊ก “สร้างเว็บไซต์ฟรีตามข้อมูลของคุณ” จากบริการของ Google ก็ได้ จากนั้น >> กด “ถัดไป”

google-business-register-step-6

8. กดเสร็จสิ้น

google-business-completed-register

9. เลือกวิธียืนยันตัวตนและตำแหน่ง (ยืนยันธุรกิจ) ของหน้าร้านหรือบริษัทของคุณ

– แนะนำให้เลือกแบบ “ส่งไปรษณียบัตรทางไปรษณีย์” นะครับ (อีกอันจะเป็นยืนยันทีหลังไม่แนะนำครับ) จากนั้นกรอก ชื่อที่ติดต่อ เป็นชื่อคุณก็ได้ครับ เพื่อให้ง่ายต่อการรับเมื่อไปรษณีย์มาส่ง (Google จะจ่าหน้าซองถึงคุณโดยตรง) จากนั้น >> กด “ส่งจดหมาย”

google-business-post

10. กด “ดำเนินการต่อ” และรอรับ PIN (รหัสยืนยันตัวตนธุรกิจ) ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ (14 วัน)

google-business-pin

NOTE: ข้อมูลทั้งหมดที่เรากรอกไปข้างต้น สามารถแก้ไขได้ภายหลังนะครับ หลังจากยืนยันตัวตนด้วยการกรอก PIN แล้ว (เผื่อในกรณีย้ายที่อยู่ร้านหรือบริษัท)

11. หลังจากนั้นเราจะเด้งเข้ามาที่ หน้าจัดการโปรไฟล์ Google Business Profile ของเราครับ 1 บัญชี Google สามารถสร้างโปรไฟล์ ได้หลายโปรไฟล์ สำหรับธุรกิจที่มีสาขาเยอะ หรือบริษัทที่มีธุรกิจหลายอย่าง จัดการในบัญชีเดียวได้เลย

google-business-profile

ในหน้านี้เราสามารถแก้ไข เพิ่มข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละโปรไฟล์ได้ รวมทั้งดูข้อมูล สถิติผู้ใช้งาน พฤติกรรมผู้ใช้ รีวิว และอื่น ๆ ที่ กูเกิล มาย บิซซิเนส สรุปมาให้

ระหว่างรอรับ PIN ค่อนข้างใช้เวลาหลายวัน มาใส่ข้อมูลที่จำเป็น เพิ่มเติมให้โปรไฟล์ร้านหรือบริษัทของคุณกันเถอะ

12. ในหน้าจัดการโปรไฟล์ กดเข้าไปที่ > ข้อมูล

ทำการเพิ่มข้อมูลที่สำคัญ ๆ เช่น

– พื้นที่ให้บริการ (พื้นที่เพิ่มเติมจากที่ตั้ง)

– เวลาทำการ

– เวลาทำการพิเศษ (เช่น วันหยุดนักขัตฤกษ์)

– หมายเลขโทรศัพท์

– ชื่อย่อของข้อมูล (URL แบบสั้น)

– เว็บไซต์ (สามารถใส่ UTM Tracking ได้ เพื่อเก็บสถิติผู้ใช้งานที่เข้าชมเว็บไซต์ ผ่านการคลิกลิงก์เว็บบน กูเกิล มาย บิซซิเนส)

– ลิงก์การนัดหมาย (สำหรับคนที่มีหน้า Contact หรือ Booking บนเว็บไซต์โดยเฉพาะ)

– ผลิตภัณฑ์ (ข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ สำหรับเว็บไซต์ขายสินค้า)

– บริการ (ข้อมูลบริการ สำหรับเว็บไซต์ที่ให้บริการต่าง ๆ)

– ไฮไลต์ (เช่น เจ้าของเป็นผู้หญิง, สินค้าเฉพาะผู้ชาย บลา ๆ อันที่จริงส่วนนี้ ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ)

– คำอธิบายธุรกิจ (จุดขายบรรยาย สรรพพคุณครับตรงนี้)

– วันที่เปิด (วันก่อตั้ง)

– รูปภาพ (จะอธิบายในขั้นตอนถัดไป)

Google My Business Profile Info

 

 

13. เพิ่มมีเดียต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ได้แก่

– โลโก้

– ภาพปก + ข้อมูลระบุตัวตน (คือภาพเดียวกันครับ เลือกให้ดีให้เด่น ภาพนี้จะถูกโชว์เป็นภาพตัวอย่างของร้านหรือบริษัทเรา บนหน้าผลการค้นหาและแผนที่)

– วิดีโอ

– ภายใน (ภาพด้านในของร้านหรือบริษัท “ภาพทั่วไป + ภาพ 360 องศา + วิดีโอ” )

– ภายนอก (ภาพด้านนอกของร้านหรือบริษัท “ภาพทั่วไป + ภาพ 360 องศา + วิดีโอ” แนะนำว่าให้มีภาพที่เห็นป้ายหน้าร้านหรือป้ายบริษัทด้วยนะครับ)

– ที่ทำงาน (ภาพการทำงาน การให้บริการ หรือการจัดเตรียมสินค้า จำหน่ายสินค้า)

– ทีม (ภาพของพนักงาน)

google-business-upload-photos

14. เมื่อได้รับ PIN แล้ว ให้นำมากรอกเพื่อยืนยันตัวตนธุรกิจและตำแหน่งหน้าร้าน

Letter-PIN-Google-My-Business

    14.1 กรอก PIN

Google-My-Business-PIN-Fill

    14.2 กดยืนยัน

Business PIN Added

 

15. ธุรกิจของเราได้รับการยืนยันแล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุด 3 วันก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจหรือตำแหน่งหน้าร้านบน Google Maps ครับ

Business PIN Confirmation

 
 

การสมัครและการปรับแต่งข้อมูลโปรไฟล์เบื้องต้นก็มีเพียงเท่านี้ครับ ผมจะเขียนแนะนำ การปรับแต่งโปรไฟล์ ในระดับแอดวานซ์ ในบทความหน้าครับหากมีเวลา (อ่าน วิธีทำเอสอีโอ สำหรับ Google Maps) ซึ่งการปรับแต่งพวกนี้จะมีผลกับการทำ Local SEO ของเราด้วยครับ เพราะฉะนั้นจึ้งต้องปรับอย่างมีหลักการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คลิปวิดีโอ วิธีการสมัคร กูเกิล มาย บิซซิเนส ผ่านมือถือ จาก Google Thailand

เบอร์โทร ติดต่อสอบถาม

โทร 1800-012-722 (ตอนนี้ทาง กูเกิล มาย บิซซิเนส ได้ยกเลิกบริการโทรเพื่อติดต่อสอบถามหรือขอความช่วยเหลือแล้วครับ เปลี่ยนไปเป็นศูนย์ช่วยเหลือแบบออนไลน์แทน)

ศูนย์ช่วยเหลือ

https://support.google.com/business/?hl=th#topic=4539639

สรุป

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจทุกท่าน ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่กำลังสนใจสร้างโปรไฟล์ธุรกิจ ให้กับหน้าร้านหรือบริษัทของตนเองนะครับ รับรองได้ว่ามันจะช่วยให้ร้านค้าและธุรกิจของคุณได้เป็นที่รู้จัก พบเจอ จากผู้ใช้งานบน Google Search และ Google Maps ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าคุณได้อย่างแน่นอน, หากท่านใดมีคำถาม สามารถทิ้งคำถามไว้ที่กล่องคอมเม้นท์ใต้บทความนี้ ได้เลยครับ ถ้าผมมีเวลาจะมาตอบคำถามให้

แชร์บทความนี้!

4.6 7 โหวต
ให้คะแนนบทความ
การติดตาม
แจ้งเตือน
guest

0 ความคิดเห็น
การตอบกลับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด