บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Local SEO (การเพิ่มประสิทธิภาพผลการค้นหาในท้องถิ่น) แนะนำวิธีการทำ Google Business Profile SEO ขั้นพื้นฐาน สำหรับการทำอันดับให้ดีกว่าคู่แข่งทางธุรกิจของคุณ บน Google Maps จากการค้นหาในท้องถิ่นหรือที่เราเรียกว่า Local Search
สิ่งที่ควรทราบ เมื่อต้องทำ Google Business Profile SEO
การทำอันดับให้กับ กูเกิล มาย บิซซิเนส บน Google Maps จำเป็นที่จะต้องทำทั้ง Onsite และ Offsite เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเว็บไซต์ของเราและระบบของกูเกิลในภาพรวม กูเกิล จะจัดอันดับที่ดีบนแผนที่ให้กับคุณ ก็ต่อเมื่อบนเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบริการที่คุณนำเสนอบนโปรไฟล์ กูเกิล มาย บิซซิเนส
การทำ Local SEO สำหรับ Google Business Profile
สร้างหน้า Local Landing Page
บนเว็บไซต์ของคุณจำเป็นต้องมี หน้าเว็บที่ใช้ทำอันดับใน Keyword เดียวกันที่อยากทำอันดับบน Google Maps, แนะนำให้ทำเป็น Local Landing Page (หน้าเว็บสำหรับทำอันดับในท้องถิ่น) โฟกัส Keyword + Location Name ที่คุณต้องการให้บริการ แยกออกจากหน้า Landing Page หลักที่เป็น Broad Match อีกทีครับ จะทำให้หน้าเว็บของเราสามารถเชื่อมโยงกับ Location (ตำแหน่ง,ที่ตั้ง) บนระบบการจัดอันดับของ Google Maps ได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่าง:
Landing Page ที่โฟกัส Broad Match
- นวดจัดกระดูก
Local Landing Page ที่โฟกัส Keyword + Location Name
- นวดจัดกระดูก ดอนเมือง
- นวดจัดกระดูก รังสิต
- นวดจัดกระดูก …
ปรับแต่ง Local Landing Page
การจะติดอันดับที่ดีบน Google Maps ได้นั้น หน้า Local Landing Page เราจำเป็นต้องมีอันดับที่ดีก่อน (ทำควบคู่กันไป) Local Landing Page และ Google Business Profile ของคุณจะช่วยส่งเสริมกันและกัน ผลักดันอันดับของทั้งคู่ให้ดียิ่งขึ้น สามารถดู วิธีการปรับแต่ง Landing Page แบบทั่วไป และนำมาปรับใช้กับ Local Landing Page ได้ ต่างกันเพียงลักษณะของ Keyword ที่ใช้ครับ
ปรับแต่งข้อมูลบน Google Business Profile
ผมจะขอพูดถึงแค่ในส่วนของข้อมูลสำคัญที่เราจำเป็นต้องปรับแต่งให้เหมาะสมเท่านั้นนะครับ ข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ ทุกท่านสามารถปรับแต่งได้ด้วยตัวเอง โดยการใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ Google แนะนำในหน้า Info
Business name (ชื่อธุรกิจ)
ใช้ชื่อธุรกิจของคุณนำหน้าและตามด้วย Keyword ที่ต้องการทำอันดับ
Business name + Keyword
ตัวอย่าง:
- Dr.Justin Orthopedic Massage – นวดจัดกระดูก
ในกรณีที่โฟกัสหลาย Keyword ให้คั่นด้วย คอมม่า (,)
Business name + Keyword 1, Keyword 2, Keyword 3
ตัวอย่าง:
- Dr.Justin Orthopedic Massage – นวดจัดกระดูก, xxx, xxx
แนะนำว่าให้ใช้ 1-3 Keyword หลักเท่านั้นครับ เพื่อไม่ให้ Business name ยาวเกินไปและดูเป็นสแปม
Service area (พื้นที่ให้บริการ)
ระบุพื้นที่บริการทั้งหมดของคุณที่ต้องการทำอันดับ ให้ครอบคลุมจากพื้นที่ใหญ่สุด-ไปพื้นที่เล็กสุด ระบุได้สูงสุดที่ 20 พื้นที่
Services (บริการ)
หากเป็นธุรกิจประเภทบริการ ให้ระบุบริการหลักและย่อยของคุณทั้งหมด โดยใช้ Keyword ที่ต้องการทำอันดับร่วมด้วยในแต่ละส่วนของการระบุข้อมูล
Products (ผลิตภัณฑ์)
หากเป็นธุรกิจประเภทจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ให้ระบุผลิตภัณฑ์หลักของคุณทั้งหมด โดยใช้ Keyword ที่ต้องการทำอันดับร่วมด้วยในแต่ละส่วนของการระบุข้อมูล
Embed Maps ตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจ ไว้บนเว็บไซต์ของคุณ
ทำการ Embed Maps หรือฝังแผนที่ ตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจจาก กูเกิล มาย บิซซิเนส ของคุณมาไว้บนเว็บไซต์ แบบ Sitewide (ทั่วทั้งเว็บไซต์) ในส่วนของ Footer Widget จะดูสวยงามและเหมาะสมที่สุดครับ หากใครไม่สามารถฝังแผนที่ได้หรือกลัวเกะกะ ให้ใส่เป็นลิงก์ที่เชื่อมโยงมายังแผนที่แทนครับ
(ข้อมูลบนภาพนี้ใช้ในการแสดงตัวอย่างเท่านั้น)
Embed Maps ตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจ ไว้บนเว็บไซต์ภายนอก
ในที่นี้หมายถึงการ Embed Maps หรือฝังแผนที่ ตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจจาก กูเกิล มาย บิซซิเนส ของคุณ ไปไว้บนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของคุณครับ (ยิ่งมากยิ่งดี) เช่น Guest Post, PBN, Local Citation และอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับบริการของคุณ ย้ำว่าต้องเกี่ยวข้องกันครับ ทั้งในส่วนของ Keyword และเนื้อหาในหน้าที่เราฝัง
เพิ่มรีวิวที่ดีให้กับ Google Business Profile
หมั่นขอรีวิวที่ดีจากลูกค้าที่พึงพอใจในการใช้บริการจากธุรกิจของคุณครับ คะแนนรีวิวมีผลอย่างมากในทาง SEO (Google มักจะจัดอันดับให้กับธุรกิจที่มีคะแนนรีวิวเยอะและดีขึ้นมาก่อน) มีผลต่อผู้ใช้งานเช่นกัน ช่วยสร้างทั้งความน่าเชื่อถือและการดึงดูดให้เข้ามาใช้บริการ
NOTE: ผมขอแนะนำว่าอย่าไปจ้างทำรีวิวปลอมนะครับปัจจุบัน Google ฉลาดยิ่งขึ้นสามารถคัดกรองและลบรีวิวปลอมได้ การใช้รีวิวปลอมถือว่าเป็นการหลอกลวงลูกค้าด้วยครับ เวลาลูกไปใช้บริการจริงแล้วผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นเหมือนที่รีวิวไว้จะแย่ต่อธุรกิจยิ่งกว่า
สร้าง Local Citation Listing และ Business Directory
สร้างโปรไฟล์บนเว็บสารบัญและเว็บสารบบธุรกิจ ให้มากเข้าไว้ครับ (ยิ่งมากยิ่งดี) มันช่วยทำให้ Google รู้ว่าธุรกิจของคุณได้ให้ข้อมูลบริการแก่ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ที่หลากหลาย ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ความมีตัวตนจริง โดยข้อมูลต่าง ๆ นั้น ให้อ้างอิงจากโปรไฟล์ Google Business Profile เป็นหลักครับ (อย่าลืม Embed Maps หรือแนบลิงค์แผนที่ไว้ในโปรไฟล์ด้วยหากทำได้)
ติดตามผล Google Business Profile SEO และปรับปรุง
ใช้เวลา 1-2 วันก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วครับ จากนั้นก็ให้สังเกตว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีไหม มีจุดไหนต้องปรับแก้เพิ่มเติมหรือไม่, การทำ SEO ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ครับ ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลาจะเป็นรายสัปดาห์ รายครึ่งเดือน หรือรายเดือน ก็แล้วแต่เราวางแผนครับ
คำแนะนำ การปรับปรุงการจัดอันดับในพื้นที่ โดย Google
สรุป
การทำ Google Business Profile SEO นั้นต้องใช้ปัจจัยและองค์ประกอบหลายอย่างทั้ง Onsite และ Offsite ในการช่วยผลักดันอันดับ รักษาอันดับ โปรดทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีให้กับทุกท่านที่กำลังสนใจการทำอันดับบน Google Maps หรือทำ Local SEO อยู่นะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า