LSI Keywords คืออะไร ? ความสำคัญ วิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ SEO

แชร์บทความนี้!

LSI Keywords ช่วยในการทำอันดับบน Google ได้จริงหรือไม่ ? เรียนรู้ความสำคัญของ LSI Keyword ในการทำ SEO และวิธีการใช้คีย์เวิร์ดเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพในบทความของคุณ หากคุณกำลังมองหาวิธีที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาสำหรับการทำอันดับบน Google บทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ

LSI Keywords คือ ?

LSI (Latent Semantic Indexing) หรือ ดัชนีความหมายแฝง ในรูปแบบของ คำ/วลี ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักของคุณ (Main keywords) ช่วยส่งเสริมคีย์เวิร์ดหลัก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการให้ข้อมูลเชิงบริบทที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแก่เครื่องมือค้นหา (Search Engine) และผู้ใช้ (User)

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ช่วยให้ Search Engine ทำความเข้าใจเนื้อหาโดยรวมบนหน้าเว็บ (ในระดับลึก) ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ทราบว่า “หัวเรื่องหลัก” หรือ “หน้าเว็บ” เกี่ยวกับอะไร พูดถึงเรื่องใดกันแน่, เมื่อ Google สามารถเข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นนั่นแสดงว่าอันดับของคุณจะต้องดีขึ้นตามไปด้วย

NOTE: LSI Keywords ไม่ใช่คำพ้องความหมายหรือคำที่มีความหมายคล้ายกันกับคีย์เวิร์ดหลัก “แต่เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักอย่างใกล้ชิด”

เช่น คีย์เวิร์ดหลัก “วิ่งออกกำลังกาย” ทว่า “การวิ่ง” เป็นเพียงคำพ้องความหมายของ “วิ่งออกกำลังกาย” ในส่วน LSI คือ รองเท้า, ความเร็ว, ระยะทาง, การหายใจ, 10 กิโลเมตร เมื่อนำมาประกอบกับคีย์เวิร์ดหลัก ก็จะกลายเป็น LSI Keyword

ความสำคัญของ LSI Keywords

เมื่อนานมาแล้ว Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ จะค้นหาหัวเรื่องของหน้าเว็บโดยอ้างอิงจากคีย์เวิร์ดหลักที่พบบนหน้าเว็บแบบ 100%

เช่น หาก Google เห็นคำหลัก “การตลาดออนไลน์” ซ้ำแล้วซ้ำอีกในหน้าเว็บ ก็จะคิดว่าหน้านี้เกี่ยวข้องกับ “การตลาดออนไลน์” อย่างชัดเจน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด (Keyword Density) จึงมีความสำคัญมาก หากคุณไม่ใช้คีย์เวิร์ดหลายครั้ง Google จะไม่เข้าใจว่าหน้าเว็บของคุณเกี่ยวกับคำนั้น

Main Keywords ในเนื้อหา

แต่ในปัจจุบัน Google ฉลาดมากขึ้น เป้าหมายของ Google คือ การค้นหาหัวเรื่องโดยรวมของหน้าเว็บ การทำความเข้าใจและการใช้งาน LSI Keywords นั้นจึงมีความสำคัญมากขึ้น หากใช้งานอย่างมีกลยุทธ์กับเนื้อหาของคุณจะช่วยให้ประสิทธิภาพของ SEO ดีขึ้นและมอบข้อได้เปรียบในการแข่งขันให้กับเว็บไซต์ของคุณ

LSI Keywords ในเนื้อหา

Google พึ่งพา LSI เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาในระดับลึก

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณเพิ่งเผยแพร่บทความเกี่ยวกับ “Dalgona Coffee”, Google จะยังคงสแกนหน้าเว็บของคุณเพื่อดูว่าคุณใช้คีย์เวิร์ดหลัก “Dalgona Coffee” ใน Title Tags (หัวเรื่อง), Meta Description (คำอธิบาย) , Content (เนื้อหา), Image Alt Text (คำอธิบายรูปภาพ), อื่น ๆ

Google มองหา Primary Keywords ใน Content

และจะสแกนหน้าเว็บของคุณเพื่อหา LSI เช่นกัน (เช่น สูตร, ผงมัทฉะ, น้ำแข็ง, ฟองโฟม, แก้ว)

Dalgona Coffee LSI Keywords ใน Content

เมื่อ Google เห็น LSI ในเนื้อหาของคุณ พวกเขาจะมั่นใจว่า “หน้านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Dalgona Coffee”

Dalgona Coffee LSI Keywords

ทำไม LSI Keywords จึงสำคัญกับ SEO ?

ช่วยให้ Google Algorithm กำหนดคุณภาพเนื้อหา ความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก ได้ง่ายขึ้น

เมื่อ LSI ให้ข้อมูลเชิงบริบทและอธิบายหัวเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น Google ก็จะเข้าใจเกี่ยวกับหน้าเว็บ ผลิตภัณฑ์และบริการของคุณได้ดีขึ้น ปรับปรุงการจับคู่ระหว่างสิ่งที่ผู้คนค้นหาและผลลัพธ์การค้นหา ให้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น, แอลเอสไอได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ค้นหาค้นพบสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา ไม่ใช่แค่สิ่งที่พวกเขาค้นหา

มากกว่านั้นคือ LSI Keywords สนับสนุนให้ผู้เขียน เจ้าของเว็บไซต์และนักทำ SEO สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การสแปมคีย์เวิร์ดหลักอีกต่อไป เนื้อหาที่มีคุณภาพยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำอันดับ

ส่งเสริม Keyword Density ลดการสแปมคีย์เวิร์ดหลัก

ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด (Keyword Density) คือ จำนวนครั้งที่คีย์เวิร์ดของคุณถูกใช้ในเนื้อหา ถูกวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนคำทั้งหมด (ค่าที่เหมาะสมคือ 1-2.5%) การใช้คีย์เวิร์ดหลักมากเกินไป (สแปม) อาจทำให้หน้าเว็บของคุณเสี่ยงต่อการถูกลงโทษ LSI จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มคำที่เกี่ยวข้องได้อย่างปลอดภัย

เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณควรทำการกระจาย แอลเอสไอ ไปทั่วทั้งเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติและสมเหตุสมผลสำหรับผู้อ่าน เป็นแนวทางในการหลีกเลี่ยงการสแปมคีย์เวิร์ดหลักที่มากเกินไปในเนื้อหา โดยการใช้ LSI Keyword เข้าช่วย

เพิ่มพลังให้คีย์เวิร์ดหลัก ดึงดูดปริมาณการเข้าชม ที่มากขึ้น

เมื่อคุณสร้างเว็บไซต์หรือเขียนบทความ คีย์เวิร์ดหลัก (Main Keywords, Primary Keywords) จะมีบทบาทสำคัญที่สุดในส่วนของ SEO นอกจากนี้แล้ว คีย์เวิร์ดรอง (Secondary Keywords) และคีย์เวิร์ดหางยาว (Long-Tail Keywords) จะช่วยดึงดูดปริมาณการเข้าชม (Traffic) จากการค้นหาให้กับเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมคีย์เวิร์ดหลักให้มีอันดับที่ดีขึ้นด้วย, การใส่ แอลเอสไอ ไว้ในเนื้อหา จะทำให้หน้าเว็บของคุณติดอันดับในคีย์เวิร์ดรองและคีย์เวิร์ดหางยาว ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักแบบอัตโนมัติ

LSI Keywords ช่วยปรับปรุงการจัดอันดับบน SERP ได้อย่างไร ?

Google เข้าใจบริบทของหน้าเว็บของคุณดีขึ้น

เนื่องจาก Google พยายามให้ผลลัพธ์การค้นหาที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้และมุ่งเน้นไปที่บริบททั้งหมดของหน้าเว็บ มากกว่าความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดหลัก ดังนั้นหน้าเว็บที่มี LSI Keywords จะได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเพราะ Google สามารถเข้าใจบริบทของหน้าเว็บได้อย่างลึกซึ้งและนำหน้าเว็บไปแสดงผลบน SERP ให้กับผู้ค้นหาที่มีความต้องการตรงกันมากที่สุด

ตัวอย่าง

บริบท Apple แบบผลไม้ บริบท Apple ในบริบทของบริษัทเทคโนโลยี

แอปเปิ้ล ในบริบทของผลไม้

ประกอบไปด้วย สุขภาพดี, หวาน, ผลไม้

แอปเปิ้ล ในบริบทของบริษัทเทคโนโลยี

ประกอบไปด้วย iPhone, Lightning Port, ไอโฟน

ช่วยให้คุณเข้าใจ จุดประสงค์ของผู้ใช้ (User Intent) ได้ดียิ่งขึ้น

การทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้อง, เจตนาของผู้ใช้/จุดประสงค์ของผู้ใช้ (User Intent) ได้กลายเป็นแรงผลักดันในการทำ SEO และการตลาดการค้นหา (Search Marketing) เนื่องจากทุกคนค้นหาแตกต่างกัน มีเป้าหมายและจุดประสงค์ในการค้นหา (Search Intent) ที่แตกต่างกัน

ตัวอย่าง

เมื่อคุณพิมพ์ “apple” ใน Google Search จะแสดงตัวอย่างข้อความค้นหายอดนิยม (Google Auto Suggest) ที่แตกต่างกันให้กับคุณ เราจะเห็นว่ามีทั้งคนที่ค้นหา apple store, apple watch, apple tv แสดงถึงเป้าหมายและจุดสงค์ในการค้นหาข้อมูลที่แตกต่างกัน

Apple LSI Keywords ในแถบค้นหา

ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะเขียนบทความ เกี่ยวกับ apple tv สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการพูดถึง apple tv ราคา, apple tv 4k, apple tv รีวิว

การทราบเจตนาของผู้ใช้จะช่วยผลักดันการทำ Keyword Research ของคุณให้เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง ในฐานะนักทำ SEO หรือนักการตลาดออนไลน์ มันเป็นหน้าที่ของเราในการค้นคว้าว่า ลูกค้าของเรากำลังค้นหาอะไรและเราสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้พวกเขาได้อย่างไร

หน้าเว็บจะติดอันดับบน SERP ในรูปแบบ Related Keywords เพิ่มเติม

ย้ำอีกครั้ง LSI Keywords เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับคีย์เวิร์ดหลัก นั่นหมายความว่าหน้าเว็บของคุณจะติดอันดับเพิ่มเติมบนหน้าแสดงผลการค้นหา (SERP) ในรูปแบบของ Related Keywords (เช่น คีย์เวิร์ดรอง, คีย์เวิร์ดหางยาง, อื่น ๆ) เช่นเดียวกับคีย์เวิร์ดหลัก

ตัวอย่าง

LSI Keywords ในการค้นหาที่เกี่ยวข้อง

Related Keywords ยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก ปรากฎในส่วนของ การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

วิธีค้นหา LSI Keywords

ใช้ Google Auto Suggest

Dalgona Coffee LSI Keywords ในแถบค้นหา Dalgona Coffee LSI Keywords ในการค้นหาที่เกี่ยวข้อง

คำนำหน้า, คำต่อท้าย, คำที่เน้นตัวหน้า จากการค้นหา คีย์เวิร์ดหลัก โดน Google Auto Suggest ที่แสดงในแถบค้นหาและการค้นหาที่เกี่ยวข้อง คือ LSI ที่สามารถเลือกมาใช้งานได้กับเนื้อหาของเรา

ใช้ Google Image Tags

LSI ใน Google Image Tags

ใช้ Pinterest Image Tags

LSI ใน Pinterest Image Tags

ใช้เครื่องมือสำหรับวิจัยคีย์เวิร์ด

LSI keyword tool

วิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำ LSI Keywords ไปใช้ในเนื้อหา ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรกระจาย แอลเอสไอ ไว้ทั่วทุกส่วนของเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติทั้งกับ Robot และ User (ผู้ใช้)

Title Tags (หัวเรื่อง)

ใช้ร่วมกับ คีย์เวิร์ดหลัก (Main Keywords, Primary Keywords) สร้างหัวเรื่องสำหรับบทความของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าหัวเรื่องของคุณครอบคลุมเนื้อหาภายใน กระชับและแสดงผลอย่างพอดีบน SERP ไม่สั้นหรือยาวเกินไป ทั้งสำหรับเวอร์ชัน Mobile และ Desktop

Meta Description (คำอธิบาย)

ใช้ในคำธิบายของคุณ กระจายคำอย่างพอเหมาะ เลือกใช้คำที่เกริ่นนำเนื้อหาภายในได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด สร้างคำอธิบายที่ดึงดูดความสนใจของผู้ค้นหา

Heading (หัวข้อ)

ใช้ในหัวข้อของเนื้อหา (H1, H2, H3), Google ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับหัวข้อหลักและย่อยของหน้าเว็บ ที่มีความเกี่ยวข้องกันตามลำดับ ครอบคลุมเนื้อหาที่จำเป็น, แอลเอสไอ จะช่วยให้คุณตัดสินใจการแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่าง

<h1>LSI Keyword ช่วยเพิ่ม SEO Traffic ได้อย่างไร</h1>

เนื้อหา ...

<h2>LSI Keyword คืออะไร ?</h2>

เนื้อหา ...

<h2>LSI Keyword สำคัญกับ SEO อย่างไร ?</h2>

เนื้อหา ...

<h2>...</h2>

เนื้อหา ...

Content (เนื้อหา)

ไม่มีใครชอบอ่านเนื้อหาที่ไม่เป็นธรรมชาติและสแปมคีย์เวิร์ดมากเกินไป มันยากที่จะอ่านและน่ารำคาญที่จะเห็นคำเดิมซ้ำ ๆ สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือการใช้ คีย์เวิร์ดหลัก ในย่อหน้าแรกของทุกหัวข้อ จากนั้นใช้คีย์เวิร์ดรองและ LSI Keywords ในส่วนที่เหลือ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

NOTE: เขียนเพื่อมนุษย์ อย่าเขียนเพื่อ Robot

Anchor Text (ลิงก์ตัวอักษร)

หากคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันบนเว็บไซต์และต้องการทำ Internal Links เชื่อมโยงไป แนะนำให้ใช้ Keywords บ้างบางครั้ง

ตัวอย่าง

<a href=”https://www.example.com/lsi-tool/”>เครื่องมือฟรี สำหรับวิจัย LSI Keywords</a>

Images: Alt Text, File Name, Title (ข้อความอธิบายรูปภาพ, ชื่อไฟล์ภาพ, ชื่อภาพ)

กระจายไว้ในทุกส่วนของรูปภาพเท่าที่ทำได้

ตัวอย่าง

LSI Keyword ในรูปภาพ

ควรใช้กี่คำ ?

คุณสามารถใช้ แอลเอสไอ ที่ใดก็ได้ภายในเนื้อหา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้มากเท่าไหร่ก็ได้ แนะนำให้รักษาอัตราส่วน 2 ต่อ 1 สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก, เมื่อใช้ LSI Keyword ในเนื้อหา โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันอยู่ในย่อหน้าเดียวกันกับคีย์เวิร์ดหลัก เพื่อช่วยสนับสนุนและสร้างบริบทเพิ่มเติมให้กับคีย์เวิร์ดหลักของคุณ

เครื่องมือสำหรับวิจัยคีย์เวิร์ด

นอกจากการค้นหา LSI Keyword แบบ Manual โดยใช้ Google Auto Suggest แล้ว มีเครื่องมือน่าใช้งานบางตัวที่ผมจะแนะนำไว้ให้ทุกท่าน ดังต่อไปนี้

สรุป

การทำความเข้าใจว่า LSI Keywords ใดมีความสำคัญและสามารถนำมาใช้ในเนื้อหาได้อย่างเหมาะสม จะทำให้การเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจบริบทเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นและปรับปรุงอันดับให้สูงขึ้นสำหรับคีย์เวิร์ดเป้าหมายของคุณ, การใช้ประโยชน์จาก แอลเอสไอ จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงเนื้อหาของคุณจากผู้ค้นหาที่มี Intent ตรงกัน Google จับคู่ข้อความค้นหาและแสดงผลลัพธ์ที่ตรงเป้าหมาย แก่ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

ในปัจจุบัน Latent Semantic Indexing มีบทบาทอย่างมากในการสร้างความสำเร็จให้กับเว็บไซต์ หากคุณยังไม่เคยใช้มัน โปรดใช้เวลาทำความเข้าใจและทดลองทำตามคำแนะนำในบทความนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาบนเว็บไซต์และประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้ให้มากที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก:

  • backlinko.com
  • ahrefs.com
  • lsigraph.com

แชร์บทความนี้!

5 1 โหวต
ให้คะแนนบทความ
การติดตาม
แจ้งเตือน
guest

0 ความคิดเห็น
การตอบกลับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด