CTR: Click-Through Rate คืออะไร แนะนำวิธีการปรับปรุง

แชร์บทความนี้!

CTR (Click-Through Rate) เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญ ควรมีการวางแผนตั้งแต่ตอนเริ่มต้นสร้างหน้าเว็บ เพื่อการปรับปรุงภายหลัง มันจะส่งผลแบบเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อหน้าเว็บของเราไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในหน้าแรกของ หน้าผลลัพธ์การค้นหา (SERP), เว็บไซต์ที่มี % CTR ที่สูงกว่า จะมีโอกาสในการเลื่อนอันดับขึ้นไปในตำแหน่งที่ดีกว่า

CTR คือ ?

CTR หรือ Click-Through Rate คือ อัตราการคลิกผ่าน แสดงในรูปแบบ % เพื่อบ่งบอกว่า ผู้ใช้งาน Google Search คลิกเข้ามายังเว็บไซต์ของเราเป็นกี่ % ของการแสดงผลบนหน้าผลลัพธ์การค้นหา

สูตรการคำนวณ CTR

คลิก ÷ การแสดงผล = CTR

เช่น หากคุณได้รับคลิก 10 ครั้ง และมีการแสดงผล 100 ครั้ง Click-Through Rate จะเท่ากับ 10%

CTR ควรอยู่ที่เท่าไร ?

CTR เท่าไหร่ถึงจะดี สำหรับ Organic Traffic “ยิ่งเยอะมากเท่าไรยิ่งดี” ขั้นต่ำอยู่ที่ 6.5% แต่เป้าหมายที่คุณควรตั้งไว้คือ 8% ขึ้นไป หากทำได้จนถึง 10 % จะยอดเยี่ยมมาก และหากทำได้ 20% ขึ้นไป Organic Traffic จะมากขึ้นอีกหลายเท่าตามลำดับ

การปรับปรุง เพิ่ม CTR

ในที่นี้คือการปรับปรุงการเขียน Title Tag, Description Tag, และ URL ที่แสดงบนหน้าผลการค้นหา ให้ดูน่าสนใจและโดดเด่น จูงใจผู้ใช้งาน ให้คลิกเข้ามายังหน้าเว็บของเรา เพื่อที่จะทำให้ % อัตราการคลิกผ่าน ในหน้าเว็บนั้น ๆ เพิ่มมากขึ้น 

NOTE: ยังคง คีย์เวิร์ดหลัก ไว้ ปรับเปลี่ยนแค่รูปแบบประโยคที่ใช้ใน Title Tag, Description Tag, และ URL 

CTR - Title Description URL

มาดูแนวทาง เพิ่ม CTR กันเลยครับ

1. การเขียน Title Tag (หัวข้อ)

ใช้ประโยคที่ส่งผลให้เกิดอารมณ์ร่วมพื้นฐานของมนุษย์

การใช้ประโยคที่ส่งผลให้เกิดอารมณ์ร่วม จะช่วยจูงใจผู้ใช้งานให้คลิกเข้ามายังหน้าเว็บไซต์เรามากยิ่งขึ้น

อารมณ์/ความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์

อารมณ์และความรู้สึกมีหลากหลายรูปแบบ เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมกับเนื้อหาในหน้าเว็บของเรา

เช่น กลัว ประหลาดใจ มีกำลังใจ เสียใจ เศร้า เหงา โกรธ คาดหวัง ร่าเริง อื่น ๆ …

ตัวอย่าง

เวอร์ชันปกติ: เงินไม่พอใช้ : 10 วิธีหารายได้เสริม

เวอร์ชันอารมณ์/ความรู้สึก (กลัว): เงินไม่พอใช้ แนะนำอาชีพเสริมสร้างรายได้ 3 เท่า ของพนักงานเงินเดือน !

ใช้ประโยคที่สื่อถึงลักษณะบุคคลหรือพฤติกรรม

ลักษณะบุคคล/พฤติกรรม

เช่น ฮีโร่ ตัวร้าย ผู้มีอารมณ์ขัน ผู้ให้กำลังใจ ผู้ที่ทำให้รู้สึกดี อื่น ๆ …

ตัวอย่าง

เวอร์ชันปกติ: คิดว่าแฟนนอกใจ : วิธีการจับผิดคนนอกใจ

เวอร์ชันบุคคล/พฤติกรรม (ตัวร้าย): ใครที่แฟนคุณแอบไปนอนด้วย ? วิธีสืบหาความจริง แก้แค้นแฟนนอกใจ !

ใช้ลิสต์ตัวเลขเข้าช่วย

ตัวอย่าง

เวอร์ชันปกติ: วิธีง่าย ๆ ในการเขียนบทความให้น่าอ่าน

เวอร์ชันตัวเลข: 15 เคล็ดลับ การเขียนบทความแบบมอบคุณค่า ให้ครองใจผู้อ่าน

สร้าง Template สำหรับการนำไปใช้งานจริง

1

2

3

4

รูปแบบการแสดงเนื้อหา

กระตุ้นอารมณ์/ความรู้สึก

ชนิดเนื้อหา

เรื่องที่โฟกัส

 

ลิสต์ตัวเลข

คำถาม

อินโฟกราฟิก

ข้อเท็จจริง

กลยุทธ์

อื่น ๆ …

 

กลัว

ประหลาดใจ

โกรธ

คาดหวัง

รื่นเริง

อื่น ๆ …

 รูปภาพ

วิดีโอ

บทสัมภาษณ์

ข้อเท็จจริง

กลยุทธ์

อื่น ๆ…

ความรัก

สุนัข

ท่องเที่ยว

สุขภาพ

งาน

อื่น ๆ…

ตัวอย่าง

Template: 1 + 2 + 3 + 4

10 + สุดยอด + กลยุทธ์ + การเถียงเพื่อนร่วมงาน

Template: 3 + 1 + 2 + 4

ข้อเท็จจริง + 11 ข้อ + ที่คุณควรทราบ + ก่อนที่จะเลี้ยงลูกสุนัข

2. การเขียน Description Tag (คำอธิบาย)

เพิ่ม “คำที่ทรงพลัง” ในคำอธิบาย

รูปแบบของคำที่ควรใช้

คำที่แสดงถึง

  • ความดูดี
  • ความเรียบง่าย
  • ความอลังการ
  • ความมหัศจรรย์
  • ความทันเหตุการณ์
  • ความลึกลับ
  • การพิสูจน์
  • การค้นพบ
  • ประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง

เขียนให้ปัง เขียนให้ดัง พัฒนาทักษะการเขียนบทความของคุณให้ยอดเยี่ยม ด้วย 15 เทคนิคง่าย ๆ เรียนรู้วิธี การเขียนแบบให้คุณค่า เพื่อครองใจผู้อ่าน !

3. การเลือกใช้ URL

ใช้ URL ที่อธิบายถึงเนื้อหาภายในได้ “สั้นกระชับ เข้าใจง่าย” 

ตัวอย่าง

URL ที่ควรหลีกเลี่ยง

  • https://example.com/category=writing-tips/id=123?
  • https://example.com/category=เทคนิคการเขียน-tips/id=123?

URL ที่อธิบายเนื้อหา

  • https://example.com/content-writing-tips/
  • https://example.com/วิธีเขียนบทความ/

เพิ่มเติม

  • เวลาเขียน Title Tag และ Description Tag อย่าลืมคำนึงถึงจำนวนของตัวอักษร ให้มีความยาวพอดีกับการแสดงผลใน SERP ทั้งบน Desktop และ Mobile ด้วยนะครับ
  • นอกจากคำแนะนำด้านบน อยากให้ทุกท่านลองศึกษาเรื่องของ ริช สนิปเปต เพิ่มเติมดูครับ เราสามารถเลือกมาใช้งานให้เหมาะสมกับเนื้อหาแต่ละประเภทของเราได้ มันจะทำให้ตัวอย่างผลการค้นหาของเราที่แสดงบน SERP นั้นดูโดดเด่นน่าคลิกมากยิ่งขึ้นไปอีก นั่นส่งผลให้มีโอกาสที่ % อัตราการคลิกผ่าน ของเราจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่น ริช สนิปเปต Rating แบบนี้ครับ

Rich-Snippet-for-CTR

อ่านบทความเกี่ยวกับ ริช สนิปเปต ไดที่นี่

สรุป

ในส่วนของตัวอย่างข้างต้นในแต่ละคำแนะนำ เป็นการยกตัวอย่างแบบง่ายที่สุด หวังว่าทุกท่านคงจะนำไอเดียเหล่านั้นไปปรับใช้กันได้บ้าง ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน จะสามารถเขียนมันออกมาได้ดีกว่าที่ผมยกตัวอย่าง แน่นอนครับ

แชร์บทความนี้!

0 0 โหวต
ให้คะแนนบทความ
การติดตาม
แจ้งเตือน
guest

0 ความคิดเห็น
การตอบกลับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด