วิธี Work From Home ทำงานที่บ้าน งานด้าน SEO และงานทั่วไป

แชร์บทความนี้!

สวัสดีครับ วันนี้จะมาแนะนำวิธีการวางแผน เตรียมตัว แนวปฏิบัติ เพื่อการ Work From Home เราจะทำอย่างไรให้ การทำงานจากที่บ้าน หรือ การทำงานที่บ้าน นั้นราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ฮิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับประเทศไทยในตอนนี้ เนื่องด้วยเหตุจำเป็นที่เกิดจากมาตราการ ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อการควบคุมโรคติดต่อร้ายแรงอย่าง COVID-19

บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ Work From Home ของผมเองในระยะเวลาที่ผ่านมา-ปัจจุบัน จะขออ้างอิงจากการทำงานด้าน SEO เป็นหลัก แต่เชื่อว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะช่วยให้สายงานที่เกี่ยวข้อง หรือสายงานทั่วไปบางตำแหน่ง สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแน่นอนครับ เอาเป็นว่ามีประโยชน์กับทุกท่านที่ทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป (สมาร์ทโฟนในบางเคส) จากนอกออฟฟิศ ในช่วงนี้

Work From Home

Work From Home คือ อะไร ?

Work From Home คือ การทำงานจากที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงที่บ้านเพียงอย่างเดียว ยังหมายถึง “ทุกที่ที่คุณสามารถทำงานได้” เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงแรม และอื่น ๆ, ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย (บริษัทที่ผมทำงานให้) อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อื่น ๆ ส่วนในประเทศไทยนั้นก็มีบาง บริษัท ที่มี Work From Home กันอยู่แล้ว แต่ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร (ผมเชื่อว่ามันจะกลายเป็นเทรนด์หลักในไม่ช้าต่อจากนี้)

NOTE: ตัวย่อ WFH, คำเรียกที่คล้ายกัน Work At Home (WAH) หรือ การทำงานที่บ้าน (ใช้เรียกแทนกันได้ครับสำหรับภาษาไทย) แต่ในต่างประเทศคำว่า Work At Home ใช้ในกรณีที่เราทำงานที่บ้านมีออฟฟิศที่บ้านเป็นของเราเอง งานอิสระ ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร

ข้อดี การทำงานที่บ้าน

  • ลดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท เช่น ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าสวัสดิการที่ไม่จำเป็น ฯลฯ
  • ลดความตึงเครียดในที่ทำงาน
  • ลดค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
  • ลดความตึงเครียดในการเดินทาง
  • พนักงานสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น
  • เพิ่มความ Productive ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
  • อื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อเสีย การทำงานที่บ้าน

  • ความยุ่งยากในการประสานงานหากไม่วางแผนให้ดี

ประเภทงานที่เหมาะกับ Work From Home

  • Digital Marketing (การตลาดดิจิทัล)
  • SEO (เอสอีโอ)
  • Web Developer (นักพัฒนาเว็บไซต์)
  • Writer (นักเขียน)
  • Social Media Manager (ดูแลโซเชียลมีเดีย)
  • Data Entry (งานป้อนข้อมูล)
  • Consultant (ผู้ให้คำปรึกษา)
  • Teaching (งานด้านการสอน)
  • และงานอื่น ๆ ที่สามารทำผ่านระบบออนไลน์ได้

ขอคั่นตรงนี้สักนิดนึงครับ ทำงานจากที่บ้าน “ไม่ได้เหมาะกับงานทุกประเภทหรืองานทุกตำแหน่ง”

ตัวอย่าง: ในการทำงานของผมที่เป็นนักทำ SEO นั้น สามารถทำทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ได้ จึงสะดวกและสบายมาก แต่ก็ต้องมี ทีมขาย (Sales Team) ครับ ที่ต้องออกไปหาลูกค้า หรือนัดพบลูกค้าอยู่เป็นประจำ

เครื่องมือ Work From Home

จัดการตารางงาน

ใช้ในการจัดการ Work Calendar (ปฏิทินงาน), ตารางงาน, ตารางนัดหมาย, สิ่งที่ต้องทำ (To-do list) เช่น Google Calendar (G Suite) และ Calendar (Microsoft Outlook)

Work-Calendar

จัดการอีเมล

อีเมลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการทำงานทั้งในและนอกออฟฟิศ นอกจากระบบอีเมลอย่าง Gmail (G Suite) หรือ Outlook (Microsoft Teams) แล้ว เราควรมีซอฟต์แวร์หรือส่วนเสริมในการช่วยจัดการอีเมลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดูตัวยอดนิยมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

Email

จัดการโปรเจค

เครื่องมือสำหรับจัดการ Project หรือ Task ปกติจะเรียกว่า CRM (Customer Relationship Management) Software หรือ Task Management Software มีให้เลือกใช้อย่างหลากหลายในปัจจุบัน บางตัวรวมฟังก์ชัน ทั้งการติดต่องาน จัดตารางาน จัดการงาน แชทและวิดีโอ ไว้ทั้งหมดเลยก็มีครับ แล้วแต่ว่าบริษัทไหนจะเลือกใช้ตัวไหน เช่น Slack, Trello, Asana, Microsoft Teams และ Zoho (บริษัทผมใช้ตัวนี้) เป็นต้น

“ใช้เพื่อเป็นตัวกลางหลักในประสานและจัดการงาน” เช่น บรีฟงาน ส่งต่องาน ส่งไฟล์งาน ส่งงานให้ลูกค้า

มีฟังก์ชันเบื้องต้นที่ควรมองหาใน CRM Software

  • การ Log Time หรือบันทึกเวลาการทำงาน
  • การกำหนด Priority ลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น
  • การทำ Report รายวัน/สัปดาห์/เดือน

CRM Tools

จัดการเอกสาร

สำหรับบริษัทแนะนำเป็น G Suite ครับ ประกอบด้วย Google Sheet, Doc และ Slide ใช้งานบนเบราเซอร์ สามารถแก้ไขงานหรือดูงานไปพร้อม ๆ กันได้ (มีเวอร์ชั่น Personal ใช้งานฟรี สำหรับบุคคลทั่วไป) , อีกตัวแบบเป็นซอฟต์แวร์ติดตั้งเลยก็ Office 365 ใช้ร่วมกับ Microsoft Teams

Document tools

จัดเก็บไฟล์งาน

แนะนำ Google Drive เชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ใน G Suite, OneDrive เชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ของ Microsoft และ Dropbox เป็นตัวเลือกเสริม

Drive and storage

พูดคุยงาน

เครื่องมือตัวนี้มีให้เลือกใช้มากมายนัก แล้วแต่ว่าบริษัทไหนเลือกใช้ เช่น Google Hangouts (G Suite), Telegram, Zoom และ Skype (เวอร์ชันธรรมา และใน Microsoft Teams)

ผมและทีมงานใช้ Skype เนื่องจากเป็นตัวที่ World Wide และทำงานได้เสถียรที่สุดแล้วจากที่ทดลองมาหลายตัว, สไกป์ สามารถแชร์สกรีนให้คู่แชทหรือทีมดูไปพร้อม ๆ กันได้ พร้อมกับ Record ไว้ดูย้อนหลังได้ ในกรณีที่บางคนตามไม่ทัน หรือต้องการทบทวนงาน การประชุมย้อนหลัง ด้วยตัวเอง

คนไทยชอบใช้ Line ส่วนตัวผมไม่แนะนำนะครับ หากใครที่ไม่มีเครื่องแยกเพื่อการคุยงานโดยเฉพาะ เนื่องจากจะทำให้โฟกัสงานได้อย่างไม่เต็มที่ ไลน์เหมาะกับการเอาไว้คุยเรื่องส่วนตัวหรือติดต่อธุระส่วนตัวมากกว่า (ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ ใครคอนโทรลตรงนี้ได้ก็ไม่มีปัญหา)

Communication-tools

ช่วยเหลือ

แนะนำ TeamViewer, Microsoft Remote Desktop และ Chrome Remote Desktop ซอฟต์แวร์และส่วนเสริมที่ทำให้คุณสามารถเข้าไปควบคุมเมาส์และคีย์บอร์ดของคู่ติดต่อได้ หรืออนุญาตให้อีกฝ่ายควบคุม เพื่อการแก้ปัญหางานที่ต้องเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของอีกฝ่าย

Remote-Desktop

เลือกดู เครื่องมืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ

การเตรียมพร้อมเมื่อต้องทำงานที่บ้าน

  • เตรียมระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเครื่องมือให้พร้อม
  • กำหนดช่วงเวลาเข้าออกงาน (ออนไลน์-ออฟไลน์) ให้ชัดเจน
  • จัดตารางงานและ To-do list ล่วงหน้า วัน/สัปดาห์/เดือน แบ่งตาม Priority สำหรับใช้ส่วนตัว
  • จัดตารางงานและ To-do list ล่วงหน้า วัน/สัปดาห์/เดือน สำหรับแชร์กับ Team เพื่อให้รู้ว่าใครทำงานอะไรอยู่ ช่วงเวลาไหนว่างหรือไม่ว่าง สะดวกให้ติดต่อตอนไหน
  • จัดตารางประชุม ให้ตรงกันใน Work Calendar (ปฏิทินงาน) เพื่อเมคชัวร์ว่าทุกคนเข้าใจตรงกัน ใครไม่เกี่ยวเรื่องไหนไม่ต้องเข้า
  • จัดตาราง เช็ค-ตอบ อีเมล วันละ 1 ครั้ง, 2 วันครั้ง หรือตามความเหมาะสมของแต่ละบริษัท (จัดการไม่ดีเวลาจะหายไปไม่รู้ตัว)
    • ฝึกใช้ To, Cc, Bcc ให้ถูกต้อง ลดความซ้ำซ้อนในการติดต่องาน

แนวปฏิบัติ Work From Home

  • แบ่งช่วงเวลาเบรคย่อย 1.30 ชม. หรือ 2 ชม. เบรค 10-15 นาที กำลังดี ละสายตาจากงาน ออกไปสูดอากาศ ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้าง
  • กำหนด Star Date และ Due Date ใน Project หรือ Task ให้ชัดเจน
  • เมื่ออัปเดตงานใน Project หรือ Task ให้ Tag คนที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อเมคชัวร์ว่าเขาเห็นการอัปเดต หรือต้องทำอะไรต่อ
  • งานใช้สมองประมวลผลมาก ให้ทำตอนเช้า, งานสบาย ๆ ที่ไม่ต้องประมวลผล ให้ทำตอนบ่าย (สมองของเราจะ Productive ที่สุดคือช่วงเช้า)
  • อย่าทำงานพร้อมกันหลายอย่าง ทำให้เสร็จทีละอย่าง
  • ก่อนจะรบกวนให้ใครช่วยงาน เช็คตารางานของเขาก่อน หรือถามก่อนว่าพอมีเวลาไหม ว่างช่วงไหน
  • งานด่วนจริง ๆ อย่าส่งข้อความอย่างเดียว หากรอนานแล้วเพื่อนร่วมงานไม่ตอบ ให้โทรดีกว่า
  • อย่าแวะไปเล่นโซเชียลมีเดีย หรือสื่อบันเทิง ในเวลางาน เดี๋ยวจะยาว
  • ทำงาน=ทำงาน เบรค=เบรค เลิกงาน=เลิกงาน อย่าให้ใครขโมยเวลา และอย่าพยายามขโมยเวลาตัวเอง

สรุป

Work From Home หรือ การทำงานจากที่บ้าน เป็นวิธีการปฏิบัติงานที่ดีและยืดหยุ่นมากสำหรับสายงานที่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ก็ต้องมีการวางแผนที่ดี และรู้จักการปรับตัวให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น หมั่นทดลองและปรับแก้ กระบวนการทำงาน ในส่วนต่าง ๆ กับทีมของคุณอยู่เสมอ อะไรที่ลองแล้วไม่เวิร์คก็ตัดทิ้งไป อะไรที่ทำแล้วส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานและตัวงาน ก็ให้พัฒนาต่อไปครับ “ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานที่บ้านครับ”


เพิ่มเติม

วิธี หางานทำที่บ้าน

สำหรับท่านที่ต้องการค้น หางานทำที่บ้าน หรือ บริษัท ที่มี งานแบบทำที่บ้าน ให้ลองค้นหาบน Google Search ด้วยคำเหล่านี้

  • work from home jobs
  • work from home thailand
  • work at home
  • work at home thailand
  • work at home jobs
  • work at home jobs in thailand

ท่านจะพบกับเว็บไซต์หางาน และรายชื่อบริษัท ตำแหน่งที่มี งานทำที่บ้าน มากมาย ดูตัวอย่างได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

ตัวอย่างผลการค้นหา

แชร์บทความนี้!

0 0 โหวต
ให้คะแนนบทความ
การติดตาม
แจ้งเตือน
guest

0 ความคิดเห็น
การตอบกลับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด